Genius Sword Immortal - บทที่ 457 วิชาเซียน เพลิงปรมาณู
บทที่ 457 วิชาเซียน เพลิงปรมาณู
ในระหว่างทางใต้ท้องทะเล เย่เฟิงไม่ได้เพียงแค่หารือกับหยางชูหนิงเกี่ยวกับสถานการณ์ประเทศจีนเท่านั้น แต่ยังปรึกษาเกี่ยวกับปฏิกิริยาฟิวชั่นและฟิชชั่นและนำมันไปผสานรวมกับวิชาเซียน
อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยทดลองใช้วิธีนี้มาก่อน ส่วนวิชาเซียนเพลิงสุดขั้วขั้นสามอันอื่นมันไม่ไช่รูปแบบเช่นนี้ เย่เฟิงจึงไม่รู้เลยว่าวิชานี้มันจะมีประสิทธิภาพเพียงใด
เขารู้เพียงแต่ว่า ความรุนแรงของวิชาเซียน เพลิงปรมาณูมันเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
มือที่เขาประกบคู่อยู่ มันเป็นการช่วยสนับสนุนเพื่อให้ใช้วิชาเพลิงปรมาณูได้ แน่นอนว่าชื่อวิชาเซียนนี้มันเป็นที่เขาตั้งขึ้นเอง และดูเหมือนมันจะดูเหมาะสมกับชื่อแล้ว
หลังจากที่ผลาญลมปราณแท้จริงไปเกือบหมด เย่เฟิงก็คายมือที่ประกบกันออก ก่อนที่เขาจะกลืนเม็ดยาฟื้นฟูลมปราณแท้จริงเข้าไป ซึ่งการใช้ออกมันแทบจะไม่เหมือนกับการใช้บอลเพลิงสีขาว เขาคว้ามันไว้ที่ฝ่ามือซ้าย
ในสายตาไซ่จื่อเชียนและซูหงตื่นตระหนกเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเจือปนแววตาแห่งความเคียดแค้น เย่เฟิงโบกสะบัดมือของเขา บอลเพลิงสุดขั้วที่ฝ่ามือซ้ายถูกส่งลอยไปยังเรือเก็บกู้ของสหรัฐอเมริกา
ถ้าหากจะให้วิชานี้สมบูรณ์ มันจำเป็นต้องลมปราณแท้จริงห้าสิบปีถึงจะใช้ออกได้ ส่วนที่เย่เฟิงใช้ออกตอนนี้มันไม่ใช่วิชาที่สมบูรณ์นัก แม้ว่ามันจะไม่ใช่วิชาที่สมบูรณ์ แต่มันก็ใช้ทำลายเรือเก็บกู้นี้ได้อย่างง่ายดาย
“หายไปซะ!”
หลังจากที่เย่เฟิงเหวี่ยงมือออกไปทั้งสองข้าง เขาก็ดึงหลงหวางเอ๋อจากกลางอากาศที่พวกเขาปรากฏตัวขึ้นมาจากในน้ำ ผละหลบออกไปจากรอบๆพื้นที่เรือเก็บกู้นี้ด้วยความเร็วสูงสุด
ตูม!
หลังจากเสียงระเบิดดังขึ้น ทั่วทะเลปรากฏเปลวเพลิงลุกไหม้เผาผลาญไปทั่ว ทั่วเรือเก็บกู้ถูกบดขยี้โดยเพลิงปรมาณูของเย่เฟิง ภายใต้แสงตะวันยามรุ่งและหนาวเย็น ประกายไฟเจิดจ้าลุกท่วมไปครึ่งนภา แม้กระทั่งมหาสมุทรยังกลายเป็นสีแดงน่ากลัว
เวลานี้ เย่เฟิงที่ดึงหลงหวางเอ๋อหนีออกมามันไกลถึงหลายกิโลเมตร ปรากฏเปลวเพลิงลุกท่วมท้องฟ้ามองเห็นได้แต่ไกล ภายในใจรู้สึกเศร้า
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาใช้ออกวิชาเซียนที่เสริมพลังทำลายล้างเช่นนี้ แต่ความรุนแรงระเบิดปรมาณู (A-Bomb) ที่แท้จริงแล้วมันยังด้อยกว่ามาก ไม่สามารถเทียบได้กับเหล่าตัวตนผู้ยิ่งใหญ่ในโลกเทวะที่ทุกย่างก้าวก็ทลายฟ้าแยกปฐพีได้เลย
แต่ทว่าเขาไม่ได้คิดจะท้อแท้ เนื่องจากวิชานี้มันยังมีพื้นที่อยู่อีกมากเพื่อให้พัฒนาขึ้น
จากหลักการปฏิกิริยาฟิชชั่น เย่เฟิงสามารถเข้าใจถึงวิธีการที่จะทำให้ได้พลังงานอันมหาศาล มันเป็นเพียงการจำลองเล็กน้อยเท่านั้น ไม่สามารถเข้าใจได้เช่นเดียวกับวิชาเซียน ซึ่งไม่รู้เลยว่า ถ้าหากผสมผสานหลักการฟิวชั่นอันน่ากลัวเข้าไปด้วยและสามารถหลอมรวมเข้ากับวิชาเซียน ประสิทธิภาพมันจะมีเพียงใดกัน?
เพลิงสุดขั้วขั้นสี่ เย่เฟิงตั้งตารอคอยมันอย่างมาก เพียงแต่วรยุทธตอนนี้ของเขาไม่มีทางที่จะใช้มันได้
ปราศจากวรยุทธหนึ่งร้อยปี เขาไม่จำเป็นต้องไปขบคิดถึงมัน
“มีเพียงกาลเวลาเท่านั้นที่จะตอบได้”
เย่เฟิงกับหลงหวางเอ๋อมองอยู่แต่ไกลจากเปลวเพลิงที่ลุกท่วมมหาสมุทรค่อยๆมอดลง ก่อนที่จะค่อยๆเคลื่อนไหวเข้าไปใกล้ และแทบจะในทันทีที่ไหดักวิญญาณเข้ามามือภายในมือเย่เฟิง
วิชาเซียน ดูดวิญญาณ
เย่เฟิงโบกสะบัดมือ ทันใดนั้นหมอกสีเทาอันเย็นเยียบก็ปรากฏขึ้น ก่อนที่จะดูดวิญญาณรอบๆเข้ามา เพียงฝ่ามือเดียว วิญญาณทั้งหมดก็ถูกดูดเข้าไปในไหทีละดวง
จากนั้นเย่เฟิงวิชาอัญเชิญวิญญาณทันที เพื่อที่จะอิญเชิญวิญญาณไซ่จื่อเชียนและซูหง ไม่แม้แต่จะใส่ใจอาการตกใจและหวาดกลัวของทั้งสอง ก่อนที่จะใช้วิชาค้นวิญญาณพวกเขาทั้งสองทันที
ด้วยวิธีนี้มันทำให้เขารู้ต้นสายปลายเหตุทั้งหมด!
เรื่องทั้งหมดมีอยู่ว่า ตระกูลเมี่ยวแห่งเหยียนจิง ร่วมมือกับไซ่จื่อเชียนและซูหงคนของเผ่ยเขิงกรุ๊ปวางแผนขึ้น เนื่องจากเย่เฟิงเป็นต้นเหตุให้ลูกๆพวกเขาเสียชีวิต
[คั่นหนังสือ : จาก “โหมว” เป็น “เมี่ยว”]
เรื่องของไซ่เชาหงและซูเล่ยมันไม่จำเป็นต้องพูดถึง มันมีเพียงเรื่องเมี่ยวเฟิงที่ทำให้เย่เฟิงรู้สึกประหลาดใจ
ไซ่เชาหงและซูเล่ยพูดได้ว่าเย่เฟิงเป็นคนสังหารพวกเขา เพียงแต่จากความทรงจำของเย่เฟิง เขาไปสังหารคนตระกูลเมี่ยวที่ไหนกัน? ยกเว้นเจ้าเมี่ยวฉีกวงที่ถูกราชันปีศาจหั่วอวิ๋นสังหารที่บาร์ แต่เจ้าเมี่ยวฉีกวงนั่นมันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลเมี่ยวนี้เลย ไม่น่าจะมีสายเลือดหรือความสัมพันธ์อะไรกับเมี่ยวเฟิง
หรือเรื่องราวจะซับซ้อน ซึ่งเจ้าเมี่ยวฉีกวงมันเป็นลูกเมียน้อยของเมี่ยวเฟิงกัน?
เรื่องนี้มันก็มีความเป็นไปได้เล็กน้อย…
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เรื่องทั้งหมดคลี่คลายออกมาหมดแล้ว หลังจากเมี่ยวเฟิงกับไซ่จื่อเชียนและซูหงร่วมมือกัน ทั้งสองฝ่ายสมขบคิดกันมาเป็นเวลานานแล้ว ตอนนี้ดูเหมือนว่าหลินชื่อฉิงที่เป็นคนพาเย่เฟิงขึ้นเรือดำน้ำไป มันก็เป็นหนึ่งแผนการของทั้งสองฝ่ายนั้น
เมี่ยวเฟิงในฐานะพลเรือเอก แน่นอนว่ารู้เรื่องราวมากมายที่คนธรรมดาไม่รู้ ไม่กล้าที่จะประมาทดูแคลนเย่เฟิง ดังนั้นจึงสมขบคิดแผนนี้ขึ้น สละเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ที่เย่เฟิงมาด้วยและป้ายสีเย่เฟิงว่าเป็นคนทรยศขายชาติ
ไม่ว่ามันจะสำเร็จหรือไม่ มันก็เพียงพอทำให้เย่เฟิงตกอยู่ในสถานการณ์ที่จะถอนตัว เพียงแต่น่าเศร้า พวกเขาไม่คาดคิดว่าเย่เฟิงจะมีหนทางหลบหนีจากแรงระเบิดของเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์และยังมีวิชาค้นวิญญาณรู้เรื่องราวได้ทันที หลังจากที่หาตัวละครที่อยู่เบื้องหลังได้แล้ว มันก็ถึงเวลาที่เขาจะต้องใช้วิชาเซียนสะกดใจ!
ในเมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้ ในความเห็นเย่เฟิงคนทรยศไม่สามารถโต้แย้งได้ ส่วนเมี่ยวเฟิงก็ต้องขึ้นศาลทหาร ไม่สามารถปกป้องใครได้อีก
จากความทรงจำของไซ่จื่อเชียนและซูหง เย่เฟิงรู้ว่าพวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับหลี่เฟิง หน่วย NSA ชายผู้ที่เกลียดจอมยุทธเข้ากระดูก
“บางทีอาจจะรู้อะไรบางอย่างจากเขาได้ อย่างแรกต้องจับตัวเขาให้ได้ก่อน”
เย่เฟิงปราศจากความลังเล เป็นอีกครั้งที่ดำลงสู่ก้นทะเลลึกพร้อมกับหลงหวางเอ๋อ แต่ไม่ได้จากไป เพียงแต่ตระเวนรอบๆใกล้พื้นที่นั้น
จาวปานำทีมประกอบหลี่เฟิงและหน่วย NSA คนอื่นเคลื่อนไหวเข้ามายังพื้นที่แถบนี้ ด้วยการตรวจจับของสหรัฐอเมริกา กับความก้าวหน้าเทคโนโลยีของหน่วย NSA แล้ว แน่นอนว่ามันยากที่จะถูกพบเจอโดยคนของสรหัฐอเมริกา
แต่ในตอนนี้เรือเก็บกู้กลายเป็นซากโดยเย่เฟิง มันเป็นจุดดึงดูดความสนใจอย่างมาก
พวกเขาเฝ้ารออย่างอดทน ขณะเดียวกันก็แลกเปลี่ยนวิชาเพลิงปรมาณูที่เพิ่งใช้ออกไป
ความแข็งแกร่งของหลงหวางเอ๋อสูงกว่าเย่เฟิง เพียงแต่ว่าพรสวรรค์ของเธอด้อยกว่าเย่เฟิง ไม่จำเป็นต้องพูดถึงความเข้าใจในวิชาเซียนเหมือนเย่เฟิง เย่เฟิงนั้นเป็นคนสอนเธอ เธอก็ไม่มีทางที่จะใช้เพลิงปรมาณูได้โดยที่ไม่เคยลองมาก่อนได้เลย
อันที่จริงแล้วเรื่องนี้ไม่ได้หมายความว่าหลงหวางเอ๋อโง่ เพียงแต่ว่าพรสวรรค์ที่แท้จริงของเย่เฟิงต่างหากที่แตกต่างไปจากคนทั่วไป ส่วนหลงหวางเอ๋อถือว่าเป็นธรรมดาเท่านั้น
ซึ่งก็คืออัจฉริยะ
ขณะที่หลงหวางเอ๋อกำลังศึกษาเกี่ยวกับวิชาเซียนเพลิงปรมาณูอยู่นั้น เย่เฟิงพลันสัมผัสได้ถึงเรือเล็กลำหนึ่ง กำลังเข้ามายังตำแหน่งซากเรือเก็บกู้อย่างระวัง มันเป็นทีมตรวจสอบของหน่วย NSA
บนเรือเล็กมีด้วยกันทั้งหมดแปดคน แต่เย่เฟิงรู้จักเพียงแค่สาม ซึ่งก็คือ จ้าวปา หลี่เฟิงและหนิวเหมิ่ง
เมื่อเห็นพวกเขาทั้งสาม มุมปากเย่เฟิงพลันยกโค้งขึ้นเล็กน้อย
ตอนนี้ไซ่จื่อเชียนและซูหงตายแล้ว มันถึงเวลาที่เขาจะตอบโต้กลับเมี่ยวเฟิงแล้ว!
ต่อให้เขาเป็นพลเรือเอกก็ตาม อันที่จริงแล้วไม่ต่างอะไรจากเด็กสิบขวบ เย่เฟิงจำเป็นต้องหวาดกลัวเขา?
“ไปกันเถอะ”
เย่เฟิงจูงหลงหวางเอ๋อ ปรากฏตัวขึ้นมาเหนือน้ำ ว่ายตรงไปยังตำแหน่งของหน่วย NSA
“ข้างหน้ามีมนุษย์”
เครื่องตรวจจับบนเรือเล็กตรวจพบร่องรอยพวกเขาทันที ก่อนที่จะรายงานต่อจ้าวปา
“เป็นใครกัน?”
จ้าวปาบิดขี้เกียจ เอ่ยปากถามอย่างเฉื่อยชา
“ไม่ใช่พวกต่างชาติ คือ…เย่เฟิง เป้าหมายคือเย่เฟิง!”
เครื่องตรวจจับร้องดังเตือนขึ้นมาในทันที
เสียงนี้ทำให้หลี่เฟิงและหนิวเหมิ่งตื่นตัวขึ้นมาทันที ส่วนจ้าวปากระเด้งขึ้นมาราวกับสปริง ท่าทางแสดงให้ว่าระมัดระวังอย่างจริงจัง “พบเจอผู้ก่อการร้ายที่ต้องการตัว รับคำสั่ง หากจับเป็นไม่ได้ให้จับตายทันที!”
……………………………..
แปลโดย คั่นหนังสือ GSI
===============================
สำหรับผู้อ่านที่จำไม่ได้ “หนิวเหมิ่ง” เป็นลูกน้องหลี่เฟิงที่พาลูกทีมดำลงไปใต้ทะเลตงไห่ตอนเหตุการณ์เกาะน้ำแข็งปรากฏขึ้นมา ที่เย่เฟิงเจออาจารย์ครั้งแรก และที่บอกตำแหน่งให้เรือพิฆาต Destroyer ยิงขีปนาวุธใส่เย่เฟิงครับ
==============================