สาวน้อย ฉันจะสอนเธอบ่มเพาะเอง - บทที่ 107 ภาพหลอนยามค่ำคืน
บทที่ 107
ภาพหลอนยามค่ำคืน
เมื่อเจียงซิ่วออกมาจากลานกีฬา เขาถามเซี่ยวเซี่ยตง “เธอจะไปไหน หากเธอรอจนแฟนๆ ของเธอออกมาจากลานกีฬา มันจะยุ่งยากมากขึ้น”
เซี่ยวเซี่ยตงกลายเป็นกังวล “อ๊าาาาา พวกเขาออกมาแล้ว!”
“นายจะปล่อยให้พวกเขาหาเราเจอไม่ได้นะ”
เจียงซิ่วมองไปยังใบหน้าที่สวยงามของเซี่ยวเซี่ยตง แสงสลัวยามค่ำคืนไม่สามารถปกปิดความงดงามของเธอได้ ราวกับมันอนุญาตให้ดอกไม้เบ่งบานได้อย่างอิสระ “พี่สาวใหญ่ เธอคิดว่าฉันได้เดินได้เร็วแค่ไหนกัน เมื่อแบกคนๆ นึงอยู่”
“ได้โปรด! เราจะต้องตายแน่ๆ ถ้าแฟนๆ มาขวางเราไว้”
“นั้นเป็นวิธีที่เธอขอความช่วยเหลือจากผู้คน?” เจียงซิ่วถาม
“ฉันข้อร้อง!”
ดวงตาคู่นึงที่เต็มไปด้วยน้ำตาปรากฏต่อหน้าเจียงซิ่ว เธอดูน่าสงสารมากเลยทีเดียว
“ทำไมเธอถึงหนีมาหล่ะ?”
เซียวเซี่ยตงตอบ “นายไม่เข้าใจมันหรอก นายต้องคิดว่าซุปเปอร์สตาร์มีเงินมากมาย และสนุกไปกับชื่อเสียงที่ได้รับ แต่ถ้ามองในทางกลับกัน พวกเขาต้องเสียสิ่งต่างๆ มากมาย ฉันรู้สึกราวกับว่าถูกขังอยู่ในกรงที่ไม่สามารถหนีไปไหนได้”
“ฉันอยากจะเดินทางไปรอบๆ โลกนี้ได้อย่างอิสระ โดยที่ไม่มีโซ่ตรวนลามไว้”
“เพลินเพลินไปกับอากาศที่บริสุทธิ์ุมากเท่าที่จะมากได้”
เจียงซิ่วออกความเห็น “เหตุผลเป็นแบบนี้เอง แต่เธอจะตายก่อนที่จะได้ออกเดินทาง ขาของเธอคงจะไม่สามารถเดินออกจากประตูได้ โลกภายนอกไม่เหมาะสำหรับเธอ จะดีกว่าไหมถ้าเธอกลับไปอยู่ในกรง?”
“อุบัติเหติ! มันเป็นอุบัติเหตุ!”
เซี่ยวเซี่ยตงตอบกลับอย่างเคร่งขรึม ฉันก็แค่ขาดประสบการณ์ครั้งแรกในการทำอะไรแบบนี้ และตอนนั้นก็กำลังคิดมากอยู่ด้วย ฉันจะฝึกฝนมากขึ้นในภายหลัง เพื่อที่ใฉันจะได้ทำมันได้ดีขึ้น ไม่มีใครสามารถกีดกันสิทธิ์ของฉันในการแสวงหาอิสรภาพได้
“เธอวางแผนจะไปที่ไหน?”
เซี่ยวเซี่ยตงส่ายหัว เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธออยากจะไปไหน เธอแค่อยากจะหนี แต่ก็ไม่ได้มีแผนหลังจากที่หนีมาได้แล้ว “เดินไปก่อน ฉันขอคิดแปปนึง…”
เดินถนนจากเขตชานเมืองนี้ ไปยังเขตเมืองตัวเมือง ัมนประมาณซัก 7-8 กม
ถ้าเจียงซิ่วไม่ใช่เชื้อสายพระเจ้า แม้แต่คนที่มีกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่ง ก็ไม่สามารถอุ้มเธอได้ ในระยะทางเช่นนี้
รถตู้เจ็ดที่นั่งขับมาตามถนน และเขามาจอดข้างๆ พวกเขา ประตูเปิดออก และกลุ่มคนที่สวมหน้ากากก็รีบออกมาแย่งตัวเซี่ยวเซี่ยตงไป ไม่มีแม้แต่คำอธิบายใดๆ เซี่ยวเซี่ยตงตกตะลึง และก็ตระหนักได้ถึงสถานการณ์ เธอกรีดร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว “ลักพาตัว!”
“ช่วยฉันด้วย!”
เจียงซิ่วเองก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาเชื่อว่าหัวหน้าของเซี่ยวเซี่ยตงคงจะส่งคนมารับตัวเธอไป แต่หลังจากสังเกตเห็นว่าพวกเขาสวมหน้ากาก เขาก็มั่นใจแล้วว่ามันไม่ได้มาจากต้นสังกัดของเซี่ยวเซี่ยตง
เขาเคลื่อนที่ไปด้านหน้าในทันที และไปหยุดอยู่หน้าประตูรถที่ปิดไปแล้วครึ่งนึง พวกที่มาลักพาตัวพยายามจะปิดประตูรถ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ขณะนี้เอง คนขับก็เหยียบคันเร่ง
วูมมม!
รถพุ่งตัวออกไป
เจียงซิ่วไม่สามารถปรับตัวเข้ากับพลังของตัวเองได้ในระยะเวลาสั้นๆ เมื่อรถตู้พุ่งไปข้างหน้าเต็มกำลัง ในชั่วพริบตา รถตู้ก็ไปไกลมากกว่า 10 เมตรแล้ว
“ปล่อยฉันไปนะ…”
“ช่วยด้วย…”
เซี่ยวเซี่ยตงตกใจกลัว และก็กรีดร้องออกมา ใบหน้าของเธอซีดจางประดุจคนที่ตายไปแล้ว เธอไม่กล้าที่จะจินตนาการว่าจุดจบเธอจะเป็นอย่างไร เมื่อเธอตกไปอยู่ในเงื้อมมือของพวกลักพาตัวเหล่านี้
“เงียบปากซะ นังร่าน! เดี๋ยวพ่อคนนี้จะทำให้ลุกไม่ขึ้นซะเลย”
รถตู้ไปตามเส้นทางอย่างรวดเร็ว
“เฮ้ มองกลับไป…”
หนึ่งในผู้ลักพาตัวร้องออกมาด้วยความตกใจ
พวกลักพาตัวทุกคนมองตามตามสายตาของชายผู้นั้น และก็มองย้อนกลับไป พวกเขาเห็นเงาของมนุษย์ไล่ตามรถตู้มาด้วยความเร็วสูง มันคือเจียงซิ่วผู้ที่กำลังติดตามยานพาหนะคันนี้อยู่
“เชี่ย! เขาคิดว่าตัวเองจะไล่ตามรถตู้ได้ เขาคิดว่าตัวเองเป็นใคร?”
“แม่งเอ้ย ไอ้โง่…”
พวกลักพาตัวพากันเหยียดหยาม คนผู้นี้โง่เกินไป
“เซี่ยวคนงาม สารเลวนี้เป็นใคร? เขาถึงกับต้องเสี่ยงตัวเองเพื่อจะมาช่วยเธอ”
ผู้ลักพาตัวอีกคนตอบกลับ “แม่ง มันก็เป็นแค่คนโง่”
ผู้ลักพาตัวอีกคนกล่าวออกมา “ไอ้โง่” แม้ว่าเซี่ยวเซี่ยตงกำลังตกลงไปในความหวาดกลัว แต่เธอก็เหลียวไปข้างหลังด้วยความอยากรู้ เธอเห็นเจียงซิ่วไล่ล่ารถคนนี้อย่างตั้งใจ เธอรู้สึกว่าหัวใจของเธออบอุ่นขึ้นหลังจากได้เห็นฉากนี้ เปลวไฟแห่งความหวังสว่างขึ้นในความมืดที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง แม้ว่าเซี่ยวเซี่ยตงจะรู้ว่ามันไม่มีวันเป็นจริง ที่มนุษย์จะวิ่งแซงรถคันนึงได้ แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ สิ่งนี้เองที่ทำให้เธอมีความหวัง
“สาวเลวนี้วิ่งตามมาจริงๆ…”
ยานพาหนะสามารถเดินทางไกลได้อย่างง่ายดายด้วยการเหยียบคันเร่ง แต่มันเป็นไปไม่ได้ ที่มนุษย์จะวิ่งไปด้วยความเร็วสูงสุดเป็นระยะทางมากกว่ากิโล หรือนานกว่านั้น
“แม่งจะน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว…”
พวกลักพาตัวมองดูที่หน้าปัดรถ มันขึ้น 120 กม./ชม. แม้แต่คนโง่ก็ยังต้องหวั่นไหวเมื่อเจอกับความเร็วนี้
“เชี่ย!”
“พวกเราไม่ได้เห็นผีอยู่ใช่ไหม?”
พวกลักพาตัวต่างก็พากันงง
หากพวกเขารู้ว่าความเร็วในปัจจุบันของพวกเขา เทียบได้เป็นคุณปู่ที่กำลังพูดคุยหลังจากทานอาหารเสร็จสำหรับเทพซิ่วแล้ว พวกเขาคงจะไม่สามารถรักษาสติไว้ได้
“ไปเร็ว…”
ภาพเงาของเจียงซิ่วถูกทิ้งไว้เบื้องหลังเมื่อความเร็วขึ้นสูงถึง 150 กม. / ชม.
“ฟูวว…”
หัวหน้าของพวกลักพาตัวปล่อยลมหายใจ หนึ่งในผู้ลักพาแทบจะฉี่แตกเนื่องจากความหวาดกลัว
“ในที่สุดเราก็หนีพ้น…”
คนขับไตร่ตรองสักพักก่อนจะถามออกมาด้วยความตกใจ “สารเลวนั้นไล่ตามเรามากมากกว่า 3 กิโลเมตร? และก็ยังวิ่งด้วยความเร็ว 100 กม. / ชม.?”
“มันนานขนาดนั้น?”
“ไม่น่าจะนานขนาดนั้น ฉันคิดว่าเขาเข้ามาใกล้ในชั่วขณะนึง มั้ง? เขาวิ่งได้ดี ดังนั้นผู้ชายคนนั้นอาจเล่นกีฬาหรืออะไรทำนองนั้น…”
เซี่ยวเซี่ยตงหลับตาลงอย่างสิ้นหวัง เมื่อเธอเห็นเจียงซิ่วหายตัวไปในความมืด เธอเชื่อว่าเขาสามารถแซงรถตู้ได้ แต่ท้ายที่สุด …
“พวกนายกำลังทำอะไรกันอยู่? ปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้นะ”
หนึ่งในผู้ลักพาตัวตอบว่า“ คุณคิดว่าเรากำลังทำอะไรอยู่? คุณจะเข้าใจเมื่อเราไปถึงสถานที่นั้น”
“ปล่อยฉัน ฉันจะให้เงินเท่าที่นายต้องการเลย…” เงินเป็นเพียงแค่ของทางโลกสำหรับเซี่ยวเซียตงเท่านั้น เธอไม่สนใจมันมากนัก แต่ชื่อเสียงจะไม่ได้รับคืนเมื่อสูญเสียมันไป
เธอกลัวเมื่อพวกลักพาตัวเหล่านี้จะล่วงเกินเธอ เธอกลัวความเป็นไปได้นี้มาก
เธอไม่กล้าคิดไปในทิศทางนั้น
“เงิน?”
พวกหน้าของพวกเขาพูด “โดยธรรมชาติแล้วพวกเราย่อมต้องการเงิน แต่ชื่อเสียงของนายหญิงเซี่ยวนั้นมีมูลค่าเท่าไหร่? 10 ล้าน? หรือ 50 ล้าน? พี่น้องของเราอาจมีความสุขในคาสิโนได้ไม่กี่วันกับเงินจำนวนเท่านั้น แต่ก็จะไม่เหลืออะไรเลย ในไม่ช้าก็เร็ว มันจะดีกว่าไหม ถ้านายหญิงเซี่ยวจะส่งเงินหลายล้านให้พวกเราในทุกๆ เดือน ”
“เราคงจะทำแบบนั้นไม่ได้ ถ้าหากเราปล่อยคุณไป จริงไหม?”
ตามเรื่องราวแล้ว เธอย่อมไม่ตอบกลับ
“นั่นคือเหตุผลที่เราวางแผน เราจะถ่ายหนังที่นำแสดงโดยนายหญิงเซี่ยว ใช้เวลาไม่นานหรอก หากคุณลืมส่งเงินให้พี่น้องเรา เราก็จะอัปโหลดคลิปไปบนอินเทอร์เน็ต…”
เซี่ยวเซี่ยตงรู้ได้โดยธรรมชาติ ว่าหนังประเภทไหน ที่พวกเขาวางแผนจะถ่ายทำ ใบหน้าของเธอซีดเซียว เพราะรู้ว่านี้มันเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด
วูมม!
รถเร่งความเร็วขึ้น
เมื่อคนขับกระพริบตา เขาก็เห็นคนที่ยืนอยู่ริมถนน เหมือนจะเป็นสารเลวที่ติดตามพวกเขามา อย่างไรก็ตาม รถเร็วเกินไปที่จะมองเห็นได้ชัดเจน
“นะ นี่มันเป็นไปได้ไง?”
มันไม่มีทางที่จะเป็นไปได้ ไม่มีทางที่เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น
รถตู้ลดความเร็วลงเหลือ 80 กม. / ชม. หลังจากเข้าเขตเมือง ตอนนี้เองคนขับก็เห็นเงายืนอยู่ตรงสี่แยกไฟแดงด้านหน้าของเขา มันคือเจียงซิ่ว
ดวงตาของคนขับเบิกกว้างขึ้น
เขารู้สึกว่าบางทีเขาอาจจะเห็นภาพหลอน
รถตู้ยังคงเคลื่อนที่ต่อไป และเจียงซิ่วก็ปรากฏตัวอีกครั้งเมื่อถึงสัญญาณไฟจราจรถัดไป เขาปรากฏตัวขึ้นทางซ้ายที่เมื่อก่อนหน้านี้ แต่คราวนี้เขาอยู่ทางขวา นอกจากนี้เขายังมีถ้วยกาแฟที่มีลวดลายใบหน้าของมนุษย์อยู่ในมือ ซึ่งดูเหมือนว่าจะถูกซื้อมาระหว่างทาง เขาจ้องมองคนขับพร้อมกับโปรยรอยยิ้มให้
อึก!
คนขับรู้สึกว่าคอของเขาแห้ง มันไม่ใช่เพราะความกระหาย แต่กลับเป็นเพราะความกลัวที่เกาะกินหัวใจของเขา
“เป็นไปไม่ได้!”
เหงื่อเย็นก่อตัวขึ้นบนหน้าผากของเขา ซึ่งมันก็ไหลลงมาตามแก้ม
“อย่ากลัว… อย่ากลัว…”
เขาปล่อยลมหายใจยาวๆ ออกมา และคิดจะมุ่งเน้นไปที่การขับรถอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเงยหัวขึ้น เขาเห็นคนยืนบนสพานเหนือศีรษะด้างหน้าเขา มันเป็นสารเลวคนเดียวกันที่มีกาแฟหนึ่งถ้วยจากเมื่อก่อนหน้านี้
ดวงตาของคนขับเกือบจะทะลักออกมา
เมื่อรถมาตีนสะพาน เขาก็เรียกความกล้าหาญ และเงยหน้าขึ้นมอง ตอนนี้เขาสามารถเห็นภาพลักษณ์ของเจียงซิ่วได้อย่างชัดเจน หัวใจของเขาพังทลายลง เมื่อเขาตระหนักได้ว่ามันเป็นสารเลวคนเดียวกันกับที่เห็น
ทันใดนั้น เขาก็เหยียบเบรก แล้วก็เปิดประตูออกมา หลบหนีออกไปทั้งๆ ที่รถยังอยู่กลางถนน เขากรีดร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว
“ผี!!!!”
เพื่อนร่วมงานของเขาในรถตู้ ก็หวาดกลัวด้วยเช่นกัน เนื่องจากเรื่องที่เกิดโดยกระทันหันแบบนี้ หัวหน้าของพวกลักพาตัวสถบ แล้วก็เงยหน้าขึ้น เขาก็ตกลงอยู่ในความโง่งม เงาแห่งความตายอันเงียบงันปรากฏขึ้นในรถตู้
ชายที่มีสายตาเย็นชายืนอยู่บนสะพาน เขาถือถ้วยกาแฟใบนึงไว้อยู่ในมือของตัวเอง ฉากนี้ดูค่อนข้างแปลกภายใต้แสงจันทร์ที่ส่องมาอย่างสลัวๆ
กลุ่มลับถึงตอนที่ 320 แล้วนะครับ ถ้าเข้าตอนนี้มีโปรแถม 1 กลุ่ม เริ่มใช้ตั้งวันที่ 10/10/62 ถึง 18/10/62
ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ INDYNOVEL